ผู้ค้ำ / คดีเช่าซื้อรถยนต์ ถูกฟ้องเรียกค้าเสียหาย มีทางต่อสู้ไหม

เรื่องมีอยู่ว่า.. พ่อผมได้ไปเป็นผู้ค้ำรถยนต์ (แท็กซี่เอื้ออาทร)  ตั้งแต่ มีนาคม 2549   ปรากฏว่า  เดือน สิงหาคม 2557   มีจดหมายทวงถามให้ไปชำระหนี้ยอดเงินด้น 650000  บวกดอกเบี้ยอีก 600000 บาท   รวมเป็นยอด 1250000 บาท  พ่อผมที่เป็นผู้ค้ำคนที่ 1  งงเลยจึงได้สอบถามไปยังไฟแนนท์ (ธ.SME) แต่ก็ได้ข้อมูลอะไรไม่มากจะให้เราทำสัญญาประนอมนี้ใหม่ แต่ตอนนั้นเราติดต่อผู้เช่าซื้อไม่ได้จึงไม่ได้ตกลงอะไรแค่บอกว่า จะไปตามหารถมาคืนให้ได้      ตามหลักรถแท็กซี่คันนี้ จะต้องผ่อนหมดแล้วภายในปี 2555  ระยะเวลาผ่อน 6 ปี     สุดท้ายเราทราบว่าผู้เช่าซื้อไม่ได้ส่งค่างวดรถเลยตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปี 2555     และมีจดหมายทวงหนี้มา  ตอน สิงหาคม 2557  เราจึงรีบหาตัวผู้เช่าซื้อแจ้งให้นำรถไปคืน   หลังจากคืนรถแล้วก้อมีขั้นต่างๆ คือ นำรถไปประมูลขายทอดตลาด มีหนังสือแจ้งมาที่พ่อเรา   ประมูลได้ 12000   ให้เราใช้ค่าส่วนต่าง เราก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี  คุยกับพ่อยังไงต้องปล่อยให้เรื่องถึ่งศาลแล้วละ    ตอนนี้ปี 2562  มีหมายศาล ให้ไปขึ้นศาลเดือน เมษายน  ให้เราไปศาลเพื่อให้ชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดตอนนี้ยอดหนี้รวมดอกเบี้ย 1268000  แล้ว เราปีสิทธิ์ต่อสู้เรื่องอะไรได้บ้างคับ  
    สิ่งที่อยากจะทราบจากผู้ที่พอทราบเรื่องกฏหมาย
1. รถขาดส่งตั้งแต่ปี 2550  ทำไมถึงไม่มีการแจ้งเตือนให้ผู้ค้ำประกันรับทราบปล่อยดอกเบี้ยบานตะไทอย่างนี้  (เคยถามทาง ธ.sme ก้อได้คำตอบแบบถูๆๆๆไถๆๆไปว่ามีการชุมนุมทางการเมือง /มีน้ำท่วม/ ..... มันใช่ไหม)    อย่างนี้มีทางต่อสู้ไหม   ถ้าไฟแนนท์แจ้งตังแต่เนินๆๆ ตั้งแต่ปี 2550  อายุรถแค่ 1 ปี รถก็ยังมีราคา ยังมีทางออกอีกมากมายขายดาวน์ก้อได้  ส่งคืนก็ยังขายทอดตลาดได้ราคาดีกว่านี้   แต่ปล่อยเรื่องเงียบหายไม่แจ้งให้ทราบกันเลย จงใจปล่อยให้ดอกเบี้ยค่าปรับขึ้นมากมายขนาดนี้ได้ไง ร้องเรียนศาลได้ไหมคับ
2. คดีขาดอายุไหม   เพราะในหมายศาลระบุว่าฟ้องเรียกค่าเสียหาย  ไม่ได้ระบุว่าฟ้องเอาค่าส่วนต่าง หรือค่าขาดประโยชน์อะไรเลย  เพราะแต่ละเรื่องมันมีอายุความมไม่เหมือนกันใช่ไหมคับ งงๆ ไม่รู้ว่าฟ้องค่าเสียหายอะไร หรือเค้าจะไปบอกที่ศาลอีกที  
3. ในหมายศาลไม่มีอะไรที่เราสามารถตรวจสอบได้เลยโดยเฉพาะยอดหนี้ที่ปรากฏก็ไม่มีอะไรเป็นหลักฐาน/ใบเสร็จ/ใบจ่ายค่างวดที่เคยจ่าย      มีแต่ใบสรุปว่าเป็นนี้เท่านี้ๆๆๆๆๆดอกเบี้ยเท่าๆๆๆๆๆ  ปกติมันต้องเหมือนการฟ้องบัตรสินเชื่อต่างๆไหมที่เค้าฟ้องก็จะมีหลักฐานการชำระเงินต่างๆ แนบมาด้วยตลอด
4. งานนี้ผู้ค้ำทำอะไรได้บ้างคับเพราะงานนี้เราน่าจะรับเต็มๆๆ ผู้เช่าซื้อไม่มีอะไรแล้วไม่ไปศาลด้วย  

รบกวนผู้ที่พอให้คำแนะนำได้จะเป็นพระคุณอย่างสูงคับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
ตอนนี้ศาล ชั้นต้น พิพากษา  ยกฟ้องครับ  ต้องรอ โจทย์ว่าจะยื่นอุทธรณ์ไหม
- เรายื่นคำให้การสู้เรื่องหมดอายุความหมดไป 10 ปีครับ  / แต่ทางศาลท่านมองว่ายังไม่หมดอายุความต้องนับจากวันที่เรานำรถไปคืน
- สาเหตุที่ศาลท่านยกฟ้อง  เนื่องจากโจกย์ไม่สามารถเรียกค่าส่วนต่างได้เนื่องจากมีการนำรถมาคืนและตกลงเลิกสัญญากันระหว่าง 2 ฝ่าย
และโจทย์ไม่ได้กำหมดเรื่องค่าขาดประโย่ชน์มา   ทางศาลจึงไม่สามารถกำหนดให้ได้ครับ  จึงพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมด
     มีผลเป็นอย่างไรผมจะนำมาโพสแจ้งนะครับ    
      อมยิ้ม01ผมต้องการให้เป็นอุธาหรณ์ของผู้ค้ำประกันทุกคนนะคับ  ตัวจำเลยที่ 1 ผู้เช่าซื้อผมไม่สน  เพราะเราเดือนร้อนเพราะเค้า  ไม่มีผู้เช่าซื้อคนใหนเดินมาบอกผู้ค้ำหรอกครับว่าตัวเองไม่ได้ส่งค่างวด มีแต่จะหลบหน้ากันรอให้ผู้ค้ำประกันรู้เรื่องเอง    
                      และมาเจอไฟแนนท์ซึ่งเป็นถึง ธนาคาร (มหาชน)  ไม่มีระบบการแจ้งเตื่อนผู้ค้ำประกันเลยปล่อยให้ผู้เช่าซื้อใช่รถไปฟรีๆโดยไม่ส่งค่างวดเกือบ 8 ปี  และสุดท้ายคุณก็มาถวงให้ใช่หนี้ พร้อมดอกเบี้ยต่างๆอีกเกื้อบเท่าตัว  แพงกว่าดอกนอกระบบอีก เป็นคุณจะยอมไหมถ้ามีคนบอกว่าระบบนี้ไฟแนนท์มีสิทธิ์ถูกต้องทำได้   ถ้าไฟแนนท์อื่นๆเรียนแบบบ้าง เอารถให้คนอื่นเช่า-ซื้อแล้วก็ปล่อยทิ้งไปเลยอีกสัก 20 ปีค่อยมาทวงผู้ซื้อ และผู้ค้ำ   จะทำไงจากยอดกู้ 1 ล้านฟ้องมาเป็น 3-4 ล้าน  จะทำไง...มันไม่ถูกครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่